Blade: Trinity
รีวิวหนังออนไลน์
Blade: Trinity หรือในชื่อไทยว่า เบลด 3 อำมหิตพันธุ์อมตะ เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่ออกฉายเมื่อปี 2004 ซึ่งเป็นภาคที่สามในซีรีส์ Blade ที่สร้างจากการ์ตูนของ Marvel Comics โดยผู้กำกับเดวิด เอส. โกเยอร์ ที่เคยทำหน้าที่เป็นผู้เขียนบทในภาคก่อนหน้านี้ด้วย
นักแสดง
- เวสลีย์ สไนป์ส รับบทเป็น Blade
- เจสัน เบทแมน รับบทเป็น Hannibal King
- ไรอัน เรย์โนลด์ส รับบทเป็น Hannibal King
- เจสัน เบทแมน รับบทเป็น Abigail Whistler
- โดมินิค เพิร์เซล รับบทเป็น Dracula
คะแนนและการตอบรับ
ในเรื่องของคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ IMDb นั้น Blade: Trinity ได้คะแนนอยู่ที่ 5.9/10 ขณะที่ Rotten Tomatoes ให้คะแนนอยู่ที่ 38% ซึ่งสะท้อนถึงการตอบรับที่แตกต่างกันจากผู้ชมและนักวิจารณ์ โดยส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นถึงการพัฒนานักแสดงใหม่ ๆ และการสร้างเรื่องราวที่อาจจะไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
สรุปเนื้อเรื่อง
Blade: Trinity เล่าเรื่องราวของ Blade (รับบทโดย เวสลีย์ สไนป์ส) นักล่าแวมไพร์ที่เป็นอมตะ เขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูคนใหม่ที่มีชื่อว่า Dracula (รับบทโดย โดมินิค เพิร์เซล) ผู้ที่กลับคืนสู่โลกเพื่อทำลาย Blade และมนุษยชาติ ในขณะที่ Blade ถูกจับกุมจากตำรวจและถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร เขาจึงได้ร่วมมือกับทีมของกลุ่มนักล่าแวมไพร์ใหม่ ซึ่งมี Hannibal King (รับบทโดย ไรอัน เรย์โนลด์ส) และ Abigail Whistler (รับบทโดย เจสัน เบทแมน) เพื่อหยุดยั้ง Dracula และพยายามจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา
ระหว่างการต่อสู้กับเหล่าแวมไพร์ Blade พบว่าเขาจำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่ ๆ และต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของการต่อสู้และความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นระหว่างตัวละครใหม่ ๆ ทำให้เรื่องราวมีมิติที่น่าสนใจ
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Blade: Trinity คือการรวมเอาความตลกขบขันเข้ากับความเข้มข้นของฉากแอ็คชั่น ซึ่งทำให้ภาพยนตร์มีบรรยากาศที่แตกต่างจากภาคก่อน ๆ โดยเฉพาะการแสดงของไรอัน เรย์โนลด์ส ที่นำเสนอบทบาท ฮานนิบาล คิง ในมุมมองที่สดใหม่และน่าติดตาม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Blade: Trinity จะมีนักแสดงที่มีชื่อเสียงและความพยายามในการนำเสนอเรื่องราวใหม่ ๆ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการวิจารณ์เรื่องความไม่เข้มข้นและบทที่อาจจะไม่สมเหตุสมผลได้ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่แฟน ๆ ของซีรีส์ Blade
โดยรวมแล้ว Blade: Trinity ถือเป็นภาพยนตร์ที่มีจุดเด่นในด้านการแสดงและฉากแอ็คชั่น แต่กลับถูกมองว่าไม่สามารถรักษามาตรฐานของสองภาคแรกได้อย่างเต็มที่
